รถกระเช้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการทำงานในที่สูง มีหลากหลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้งาน นี่คือประเภทหลักๆ ของรถกระเช้าที่พบได้บ่อย:
1. รถกระเช้าแบบตั้งฉาก (Scissor Lift)
รถกระเช้าแบบตั้งฉากมีโครงสร้างคล้ายกับกรรไกรที่สามารถยกขึ้นลงในแนวดิ่งได้ ทำให้มีความมั่นคงและสามารถยกน้ำหนักได้มาก ใช้สำหรับงานที่ต้องการพื้นที่ทำงานกว้างในแนวดิ่ง เช่น งานติดตั้งไฟฟ้า หรืองานซ่อมบำรุงในอาคาร
2. รถกระเช้าแบบบูม (Boom Lift)
รถกระเช้าแบบบูมมีแขนที่สามารถยืดหดและหมุนได้ ทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึงได้ เช่น งานซ่อมบำรุงอาคารสูง งานตัดต้นไม้ หรือการทำความสะอาดหน้าต่างอาคารสูง
2.1 บูมแบบตรง (Telescopic Boom Lift)
แขนบูมสามารถยืดออกไปในแนวตรงได้ไกล เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการเข้าถึงในแนวตรงและสูงมาก
2.2 บูมแบบข้อพับ (Articulating Boom Lift)
แขนบูมมีลักษณะพับได้หลายข้อ ทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางหรือเข้ามุมได้ดี
3. รถกระเช้าแบบกระเช้าโค้ง (Spider Lift)
รถกระเช้าแบบกระเช้าโค้งมีลักษณะคล้ายแมงมุม สามารถเคลื่อนที่ได้หลายทิศทางและมีขาที่สามารถปรับระดับได้ ทำให้สามารถใช้งานในพื้นที่ที่ไม่เรียบหรือมีความลาดเอียงได้ เช่น งานซ่อมบำรุงในสวนหรือภูเขา
รถกระเช้าแบบรางมีลักษณะการเคลื่อนที่บนราง ทำให้มีความมั่นคงและสามารถยกน้ำหนักได้มาก ใช้สำหรับงานที่ต้องการความเสถียรสูง เช่น งานก่อสร้างขนาดใหญ่
5. รถกระเช้าแบบติดตั้งบนรถบรรทุก (Truck Mounted Lift)
รถกระเช้าแบบติดตั้งบนรถบรรทุกสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วและมีความคล่องตัวสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการย้ายตำแหน่งบ่อยๆ เช่น งานซ่อมบำรุงไฟฟ้าบนถนน หรืองานกู้ภัย
6. รถกระเช้าแบบตั้งพื้น (Push Around Lift)
รถกระเช้าแบบตั้งพื้นมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายโดยการดันด้วยมือ เหมาะสำหรับงานในที่แคบหรืองานภายในอาคาร เช่น งานติดตั้งแสงสว่างในห้องประชุม
7. รถกระเช้าแบบขากรรไกรไฟฟ้า (Electric Scissor Lift)
ใช้พลังงานไฟฟ้าในการยกและเคลื่อนที่ เหมาะสำหรับงานภายในอาคารหรือพื้นที่ที่ต้องการความเงียบและไม่มีการปล่อยมลพิษ
8. รถกระเช้าแบบขากรรไกรดีเซล (Diesel Scissor Lift)
ใช้พลังงานดีเซลในการยกและเคลื่อนที่ มีความสามารถในการทำงานในสภาพแวดล้อมภายนอกและสามารถยกน้ำหนักได้มาก
รถกระเช้าแต่ละประเภทมีความเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานรถกระเช้าที่เหมาะสมกับลักษณะงานและสภาพแวดล้อมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงาน
เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
Comments